เคยสงสัยกันบ้างไหมครับว่ากีตาร์แต่ละแบรนด์มีเสียงที่ต่างกันอย่างไร ยิ่งใครเป็นมือใหม่เดินผ่านร้านขายกีตาร์ก็อยากจะรู้ อยากจะฟังว่ากีตาร์แบรนด์ต่าง ๆ ที่วางขายอยู่เสียงเป็นอย่างไรบ้าง ครั้นจะเข้าไปขอลองเล่นก็กล้า ๆ กลัว ๆ พนักงานก็ทำหน้าขรึมใส่ หรือยังเล่นกีตาร์ไม่ค่อยเป็น แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะ?
วันนี้จึงขอนำประสบการณ์ทดสอบเสียงกีตาร์ด้วยตัวเองมาเล่าสู่กันฟัง แต่ต้องบอกก่อนว่าเป็นแค่เอกลักษณ์ทางเสียงของแต่ละแบรนด์เท่านั้น หมายความว่าถ้าพูดถึงแบรนด์นี้ จุดเด่นด้านเสียงของกีตาร์แบรนด์นี้เป็นแบบไหน และขอเน้นที่แบรนด์กีตาร์โปร่ง (Acoustic Guitar) ที่นิยมในหมู่นักกีตาร์
- Gibson มีโทนเสียงเด่นไปทางเสียงกลางและสูง ฟังเผิน ๆ เสียงจะคมและใสคล้าย Taylor แต่ไม่แหลมเท่าและมีเสียงเบสที่หนาและดิบกว่า เสียงกีตาร์ของ Gibson จะออกแนว Warm ส่วน Taylor ออกแนว Brightนอกจากนี้โทนเสียงของกีตาร์โปร่ง Gibson รุ่นวินเทจหรือที่ผลิตปีเก่า ๆ จะมีเอกลักษณ์ที่เรียกว่า “Gibson Thump” คือลักษณะโทนเสียงที่มีหัวโน้ตกระแทกกระทั้น (Thump) ฉับไวและหางโน้ตที่เก็บเสียงของตัวเองอย่างรวดเร็วเพื่อหลีกทางให้โน้ตตัวต่อไปเปล่งเสียงได้เต็มที่ โทนเสียงแบบนี้จะช่วยให้เสียงนักร้องเด่น ทำให้ Gibson เป็นที่นิยมของศิลปินที่ร้องเพลงและเล่นกีตาร์ไปพร้อม ๆ กัน เช่น Joe Bonamassa, James Bay, James Blunt, Tommy Emmanuel, เป้ อารักษ์ เป็นต้น
- Epiphone แบรนด์นี้เรียกได้ว่าเป็นเงาเสียงของแบรนด์ Gibson เลยก็ว่าได้ เพราะ Epiphone เป็นแบรนด์ลูกของ Gibson ที่ผลิตออกมาเพื่อตอบโจทย์คนงบน้อยแต่อยากได้โทนเสียงและรูปลักษณ์ที่ดีและสวยเหมือน Gibson ครับ ทั้งนี้ในความ (เกือบ) เหมือนก็มีความต่างหากฟังเทียบเสียงกันดี ๆ แล้ว สำหรับผมเองนั้นเสียงกีตาร์ Epiphone จะบาง (Thin) กว่า Gibson อยู่ก้าวหนึ่งในทุก ๆ มิติเสียงที่เปร่งออกมาครับ ศิลปินที่ใช้แบรนด์นี้และมีกีตาร์ Signature เป็นของตัวเองก็คือ Dave Navarro มือกีตาร์วง Jane’s Addiction และเคยเป็นอดีตมือกีตาร์วง Red Hot Chili Peppers ด้วยครับ
- Fender เสียงกลางจะเด่นมาก เสียงเบสไม่หนา เสียงแหลมมีบ้าง แต่พอผสมออกมาแล้วทำให้เสียงกีตาร์ใส นุ่ม อุ่น ละมุน แถมเล่นง่ายสบายมือ ไม่ต้องออกแรงดีดเยอะเสียงก็ดังกังวานแล้ว ศิลปินที่เป็นสาวกแบรนด์นี้อย่างเห็นได้ชัดก็คือ น้องเจ้านาย เจ้าของเพลงคนละชั้นนั่นเอง อัดคลิปร้องเพลงทีไรก็มักจะหยิบกีตาร์โปร่งเฟนเดอร์มาเล่นแทบทุกครั้งเลยครับ (ผมเคยเห็นตั้ง 3 รุ่นแน่ะ)
- Gretsch รุ่น Rancher คือรุ่นกีตาร์โปร่งที่นิยมที่สุดของแบรนด์นี้ ทั้งโทนเสียงและรูปลักษณ์ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์มาก โดยเฉพาะที่ Sound Hole จะมีลักษณะเป็นสามเหลี่ยม ดูหรูหราแปลกตาดีครับ ด้านโทนเสียงจะเน้นย่านเสียงกลางเยอะ เสียงเบสนิด เสียงแหลมหน่อย โดยรวมฟังแล้วละมุนละไม โมเดิร์นผมว่าแบรนด์นี้มีกลิ่นอายของความแจ๊สผสมคันทรีด้วยล่ะ โทนเสียงดูต่างจากแบรนด์อื่น ๆ ค่อนข้างชัดเจน ส่วนศิลปินที่ใช้กีตาร์โปร่งแบรนด์นี้ เช่น Jack White แห่งวงดูโอ The White Stripes ครับ
- Taylor มีเอกลักษณ์ที่โทนเสียงแหลมที่สุด ให้เสียงที่คม ชัด และใสกรุ๊งกริ๊ง มีโทนเสียงกลางระดับกลาง ๆ และโทนเสียงต่ำหรือเบสค่อนข้างบาง ศิลปินที่ใช้แบรนด์นี้ เช่น Taylor Swift, Jason Mraz, สิงโต นำโชค ซึ่ง Taylor ได้ผลิตกีตาร์ที่เป็น Signature ของทั้งสามคนนี้ออกมาวางจำหน่ายด้วย
- Martin โดดเด่นในโทนเสียงต่ำหรือเสียงเบสที่สุด โทนเสียงกลางและแหลมมีให้ได้ยินบ้าง ทำให้เสียงที่เล่นออกมามีความนุ่มลึก หนักแน่น ศิลปินที่ใช้แบรนด์นี้ เช่น Ed Sheeran, John Mayer, Eric Clapton ซึ่ง Martin ได้ผลิตกีตาร์ที่เป็น Signature ของทั้งสามคนนี้ออกมาวางจำหน่ายเช่นกัน
- Takamine คาแรกเตอร์ของโทนเสียงจะเน้นเสียงกลาง เสียงแหลมจะรองลงมา ส่วนเสียงเบสไม่หนักมาก ทำให้เสียงที่ออกมาจะหวาน ๆ อุ่น ๆ ศิลปินไทยที่ใช้แบรนด์นี้แทบทุกครั้งที่ขึ้นโชว์ก็คือ โจ-ก้อง แห่งวงนูโว
- Crafter จะเด่นที่โทนเสียงกลางเช่นเดียวกับ Takamine แต่จะมีเสียงเบสที่หนักแน่นกว่า ได้ยินเสียงทุ้มที่ชัดเจน เสียงที่ออกมาจึงมีความนุ่มนวล
สุดท้ายนี้ อยากฝากไว้สักนิดว่าแต่ละโทนเสียงไม่ว่าจะแหลม กลาง หรือต่ำ ไม่มีโทนเสียงไหนดีกว่ากัน ขึ้นอยู่กับแนวเพลงที่ชอบเล่นมากที่สุด หากใครชอบเล่นแนวร็อก แนวคันทรี หรือตีคอร์ด (Strumming) เป็นส่วนใหญ่ ควรใช้กีตาร์ที่มีโทนเสียงต่ำ เพราะจะได้ความทุ้มของเสียงมาเพิ่มความหนา แน่น หนึบ ส่วนใครชอบเล่นแนวเพลงฟังสบาย ๆ หรือเน้นเล่นแนว Fingerstyle, Picking ควรใช้กีตาร์ที่เด่นในโทนเสียงแหลมหรือกลาง เพราะจะได้ย่านเสียงเหล่านี้มาเพิ่มความสดใสและคมชัดให้กับเพลงที่บรรเลง แต่อย่างว่าครับ รสนิยมใคร รสนิยมมัน ไปลองเล่น ลองฟังด้วยตัวเอง และเลือกแบรนด์ที่เสียงถูกใจเราดีที่สุดครับ ขอให้มีความสุขกับการเล่นกีตาร์ครับ ☺
