เรื่องน่ารู้ของคนอยากร็อก
คอร์ด คืออะไร?
ก่อนจะพูดถึงพาวเวอร์คอร์ด (Power chord) คงต้องเล่าเกี่ยวกับคำว่าคอร์ด (chord) ซักนิด เอาแบบเข้าใจง่ายๆ ไม่ต้องหลักการเยอะ เอาโครงสร้างของคอร์ด C มาอธิบายดีกว่าเนอะ
โน้ตของกีตาร์เริ่มตั้งแต่ C หรือ โด ในระบบโน้ตสากล ไล่ไป D, E, F, G, A, B และวนกลับมาที่ C อีกครั้ง ซึ่งถ้านับโน้ตที่ไม่ซ้ำกัน มันก็มีอยู่ 7 ตัว
ทีนี้ คอร์ด ก็คือกลุ่มของโน้ตที่เอามาเรียงกันอย่างน้อย 3 ตัว โดยเอาโน้ตลำดับที่ 1, 3 และ 5 มาใช้ โดยให้เอาโน้ตตัวที่เราอยากให้เป็นชื่อคอร์ดไปวางไว้เป็นลำดับแรกสุด เช่น ถ้าเป็นคอร์ด C เราก็เอาโน้ตมาเรียงกันโดยเริ่มจาก
1 = C
2 = D
3 = E
4 = F
5 = G
6 = A
7 = B
เมื่อเราก็เอาโน้ตลำดับที่ 1, 3 และ 5 หรือก็คือ C, E, G มาเรียงกัน เราก็จะได้คอร์ด C
แล้วพาวเวอร์คอร์ด (Power Chord) ล่ะ มันจับยังไง?
หลักการของพาวเวอร์คอร์ดนั้นง่ายมาก คือให้เรากดโน้ตตัวที่ 1 และ 5 ของคอร์ด และบอดโน้ตอื่นๆ ให้หมด Power Chord เรียกอีกอย่างว่าคอร์ดคู่ 5 และเขียนคอร์ดมีเลข 5 ต่อท้ายชื่อคอร์ด เช่น C5, G5, A5 เป็นต้น
ฟอร์มการจับนั้น จะว่าไปมันก็ดูคล้ายๆ การจับแบบทาบคอร์ดนั่นแหละ แต่เราจะกดให้มันดังแค่สาย 6-4 หรือไม่ก็สาย 5-3 ตัวอย่าง ถ้าเป็นคอร์ด C แบบพาวเวอร์ (หรือคู่ 5) จากเดิมที่เราเคยทาบคอร์ดแบบใช้ทุกนิ้ว มันก็จะเหลือให้เรากด แค่โน้ต C กับ G แบบนี้
หรือคอร์ด A จับแบบพาวเวอร์คอร์ด มันก็จะมีแค่โน้ต A คู่กับ E แบบนี้
หรือถ้าเราอยากให้เสียงมันมีย่านแหลมใสเติมเข้ามาบ้าง เราก็แค่เพิ่มนิ้วนางเข้ามา ซึ่งมันก็เป็นโน้ตเดียวกับนิ้วชี้บนสายหกเป๊ะ ดังนั้นการจับแบบนี้จึงยังเป็นพาวเวอร์คอร์ด เพียงแต่เพิ่มความไพเราะอีกนิดนั่นเอง
ตารางเพาเวอร์คอร์ด (Power Chord)
ทำไมพาวเวอร์คอร์ด (Power Chord) จึงเหมาะกับเพลงร็อก
การเล่นให้มีเพียงเสียงโน้ต 1 กับ 5 เพียงสองโน้ตในคอร์ด ทำให้ไม่มีโน้ตอื่นๆ มาตกแต่งให้เป็นโทนเมเจอร์ ไมเนอร์ เซเว่นธ์ ฯลฯ ใดๆ ทั้งสิ้น มีเพียงเสียงหัวโน้ตหลักจากคอร์ดนั้นดังโดดๆ หนาๆ เพราะคอร์ดแนวนี้มักเล่นบนสาย 4 – 6 เป็นหลัก จึงเหมาะกับการเล่นริทึ่มมากกว่า และจะยิ่งเหมาะเป็นพิเศษสำหรับเล่นกับเสียง distortion หรือเสียงแตก เพราะจะให้โทนเสียงที่หนา ดุ ร็อก
นอกจากเสียงที่ดุดัน หนา สะใจเมื่อใสเสียงแตกแล้ว ข้อดีอีกอย่างของการจับคอร์ดโน้ตน้อยๆแบบนี้ก็คือ เราสามารถเคลื่อนย้ายมือเปลี่ยนคอร์ดได้เร็วกว่าการจับคอร์ดปกติมาก เพราะอย่างที่บอก พาวเวอร์คอร์ดไม่มีเมเจอร์ ไมเนอร์ เราก็แค่จำโน้ตหลักว่าอยู่ตรงเฟรทไหน แล้วก็เลื่อนบล็อคนิ้วไปๆ มาๆ แค่นั้นเอง ง่ายนิดเดียว
ง่ายดีนะ งั้นจับคอร์ดแบบนี้แทนการทาบไปเลยได้มั้ย?
แต่ด้วยความที่คอร์ดแบบนี้มีจำนวนโน้ตที่น้อย เสียงที่ได้จึงไม่ได้มีมิติสีสันอะไร มีแต่เสียงเด่นๆจากโน้ตหลักของคอร์ด (root) เท่านั้น และควรต้องเล่นกับเสียงแตกเป็นสำคัญ เพราะเล่นคอร์ดแบบนี้กับเสียง clean คงคล้ายๆกับการดีดเบสเล่นนั่นเอง การใช้พาวเวอร์คอร์ดให้ถูกที่ถูกเวลาจึงเป็นคำตอบของเรื่องนี้
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆที่กำลังหัดเล่นกีตาร์อยู่นะ กีตาร์ยังมีอะไรให้เล่นพลิกแพลงมากกว่านี้อีกเยอะ ไว้วันหลังจะมาเล่าให้ฟังอีกนะครับ