ประวัติ John Peter Petrucci
John Peter Petrucci หรือที่เพื่อนๆ รู้จักกันในชื่อ John Petrucci คือมือกีต้าร์เชื้อสายอเมริกัน สมาชิกวง Dream Theater วง progressive metal ระดับหัวแถวที่พวกเราคุ้นเคยกันดี John เกิดเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม ค.ศ. 1967 ที่ New York สหรัฐอเมริกา ในครอบครอบที่เล่นดนตรี
จอห์นเริ่มฝึกฝนกีต้าร์อย่างจริงจังเมื่ออายุ 12 ปี โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะฝึกให้ได้วันละ 6 ชั่วโมง โดยเพลงที่เด็กชายจอห์นเลือกใช้ฝึกในตอนเด็กก็เป็นผลงานของวง Rush, Iron Maiden และแน่นอนว่าที่ขาดไม่ได้ก็คือวง Metallica นั่นเอง
จอห์นเข้าเรียนดนตรีในสถาบันชื่อดัง Berklee College of Music ที่ Boston ซึ่งก็ได้พบกับเพื่อนๆ มากมาย และฟอร์มวง cover ด้วยกัน ซึ่งต่อมาก็ได้เป็นเพื่อนร่วมวง Dream Theater
จอห์นเคยมีวิดีโอสอนการเล่นกีต้าร์ชื่อ Rock Discipline เมื่อปี 1999 มีการออกทัวร์ G3 กับเทพกีต้าร์ในวงการเช่น Steve Vai, Joe Satriani, Steve Morse หลายครั้ง นอกจากนี้ก็ยังมี side project เช่น Liquid Tension Experiment รวมถึงมีอัลบั้มเดี่ยวของตัวเองที่ชื่อ Suspended Animation แต่เราคงรู้จักเขาจากผลงานส่วนใหญ่ที่เล่นกับวง Dream Theater มากกว่า
สไตล์การเล่นกีต้าร์ของ John Peter Petrucci
จอห์นเป็นที่รู้จักเป็นเบอร์ต้นๆ ของมือกีตาร์สาย progressive metal ในยุคนี้ ด้วยสไตล์การเล่นที่หนักหน่วง ลูก riff ที่ทรงพลัง เสียงแตกที่แหลกละเอียดสะใจแต่มีความคม กระชับ ชัดเจน ซึ่งจำเป็นสำหรับลูกโซโล่ความเร็วสูงที่เขาถนัก รวมถึงสัดส่วนจังหวะสไตล์ progressive ที่เดาทางได้ยาก หากแต่มีเสน่ห์เฉพาะตัวที่ทั้งคนเล่นและคนฟังดนตรีแนวนี้ต่างก็เข้าใจมันดีและมองว่าเป็นความสนุกท้าทายมากกว่าความเข้าถึงยาก
กีต้าร์ของ John Peter Petrucci
ในช่วงเริ่มต้นเล่นอาชีพในยุค 90s จอห์นใช้กีต้าร์ Ibanez รุ่นลายเซ็นของตัวเองซึ่งมีอยู่หลายรุ่น ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้กีต้าร์ Music Man รุ่นลายเซ็นของตัวเองตั้งแต่ปี 1999 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งก็มีหลายรุ่น และมีการอัปเดทเพิ่มตัวเลือกใหม่ๆ เอาใจมือกีต้าร์สายปั่นอยู่อย่างสม่ำเสมอ ในส่วนของแอมป์นั้น ปัจจุบันจอห์นเลือกใช้แอมป์ Mesa/Boogie รุ่นลายเซ็น JP-2C เป็นขุมพลัง
เรามาลองดูกันดีกว่า ว่ากีต้าร์ที่จอห์นใช้ในปัจจุบัน มีตัวไหนน่าสนใจบ้าง
- Ibanez JPM
ด้วยฝีไม้ลายมือที่เป็นดาวเด่นจอห์นของยุค heavy metal ในยุค 90s ทำให้แบรนด์กีต้าร์ชั้นนำผู้เชี่ยวชาญด้านกีต้าร์แนวร็อกในยุคนั้นอย่าง Ibanez เห็นแววดาวรุ่งและให้การสนับสนุนด้วยการออกรุ่นลายเซ็นให้จอห์นใช้ซึ่งก็คือ Ibanez JPM series ซึ่งก็เป็นการนำกีต้าร์โมเดล RG Series ที่จะว่าไปแล้วก็เหมือนเป็นกีต้าร์ icon ดนตรีแนว heavy metal ในยุคนั้นมาปรับปรุงเล็กน้อย เช่น เปลี่ยนสวิตซ์เลือกปิคอัพ จาก blade 5 ทางเป็น toggle 3 ทาง ย้ายตำแหน่งชุดควบคุม ติดตั้งปิคอัพ DiMarzio Ibanez ได้ผลิตกีตาร์ในซีรีส์ JPM ออกมาหลายโมเดล เอกลักษณ์ของกีต้าร์ซีรีส์นี้คือลวดลายกราฟิครูปหน้าคนที่เรียกว่า Picasso ซึ่งก็มีผลิตออกมาหลายรุ่นหลายเกรดราคา จอห์นใช้กีต้าร์ Ibanez อยู่ระหว่างปี 1995 – 1999
กีต้าร์ Music Man John Petrucci Signature Guitars
ในปี 1999 จอห์นได้ย้ายค่ายมาอยู่กับแบรนด์ประเทศบ้านเกิด Music Man จนถึงปัจจุบันก็นับเป็นเวลายาวนานกว่า 20 ปีแล้ว Music Man ได้ออกกีต้าร์รุ่นลายเซ็น John Petrucci signature หลายโมเดลหลายออพชันทั้งแบบ 6 และ 7 สาย สำหรับกีต้าร์ Music Man รุ่นของ John Petrucci ที่น่าสนใจ ก็เช่น
JP6 คือกีต้าร์รุ่นลายเซ็นรุ่นแรกที่บริษัท Music Man ออกให้กับจอห์นในปี 2001 ด้วยดีไซน์ที่เน้นความสบายในการเล่นสูงสุด บอดี้ทำจากไม้ basswood ที่มีการปาดชายเว้าลึกถึงเฟรทที่ 23 รวมถึงมีการปาด armrest ด้านหน้าค่อนข้างมากเพื่อความสบายของการวางแขนขวาขณะเล่น คอของ JP6 ทำจากไม้เมเปิลเคลือบด้าน ยึดไว้กับบอดี้อย่างแน่นหนาด้วยนอต 5 ตัวกับ sculpted neck joint ที่ปาดมุมเว้าไม่ให้มีเหลี่ยมตำมือ ฟิงเกอร์บอร์ดมี 2 ออพชันระหว่างไม้ Rosewood หรือ Ebony เรเดียสฟิงเกอร์บอร์ด 15 นิ้ว ถือว่าแบนถูกใจสายปั่น ความยาวสเกล 25.5 นิ้ว เฟรทเป็นสเตนเลสเพื่อความแข็งแรงทนทานและการเล่นที่ลื่นไหลดันสายสบาย อินเลย์ฟิงเกอร์บอร์ดเป็นโลโก้ JP Shield สุดเท่ ลูกบิดใช้แบบล็อกสายของ Schaller M6 เป็นมาตรฐาน คันโยกดีไซน์เฉพาะของจอห์น มีออพชัน piezo pickups ติดตั้งอยู่บน saddles ไว้เล่นเสียงกีต้าร์โปร่ง
กีต้าร์ JP6 ผ่านการอัปเดทสเปคหลายครั้ง สำหรับเวอร์ชันปัจจุบันมากับ Dimarzio รุ่น LiquiFire ที่ตำแหน่ง neck และ Crunch Lab ที่ตำแหน่ง bridge ให้โทนเสียงคลีนที่คมชัด แต่เสียงแตกกระชับ ดุดัน มีสวิตซ์ 3 ทางเลือกปิคอัพ control knobs มี volume และ tone อย่างละอัน และสำหรับตัวที่มากับออพชัน piezo pickups นั้นจะมีสวิตซ์ 3 ทางอีกอันอยู่ตรงด้านบน upper horn ไว้เลือก output 3 แบบระหว่างเสียงจากปิคอัพแม่เหล็ก (Dimarzio) หรือ piezo หรือเปิดใช้ทั้งสองเสียงพร้อมกัน
กีต้าร์ Music Man JP6 มีหลายสีหลายออพชันหลายระดับราคา ดูรายละเอียดสเปคและราคา Music Man JP6 คลิก
กีต้าร์ Music Man ที่เป็น BFR ก็คือกีต้าร์เวอร์ชันพิเศษ ปรับสเปคให้แปลกใหม่กว่าเวอร์ชันปกติ และผลิตจำนวนจำกัด สำหรับ BFR JP15 ตัวนี้บอดี้เป็นไม้ African mahogany แปะท็อปด้วยไม้เมเปิลลายเฟลม
ส่วนคอเป็นไม้เมเปิลลายเฟลมสวยๆ ที่ผ่านกรรมวิธีอบด้วยความร้อนสูงเพื่อกำจัดความชื้นในเนื้อไม้ ให้ความเสถียรของคอ ทนทานต่อสภาพอากาศมากกว่าไม้เมเปิลปกติ ฟิงเกอร์บอร์ดเป็นไม้ ebony มีขอบ binding ที่ทำจากไม้เมเปิล แต่ไม่มีลวดลายอินเลย์ใดๆ เพื่อโชว์ความสวย เรียบเป็นมันเงาของไม้ ebony และให้ดูพิเศษ แตกต่างจาก JP15 เวอร์ชันปกตินั่นเอง ปิดท้ายความพิเศษด้วยสีชมพู Paradise Pink
BFR JP15 ผลิตเพียง 110 ตัวเท่านั้น ประเทศไทยมีเข้ามาทั้งแบบ 6 และ 7 สาย ของมีไม่มากนะ ใครสนใจก็จัดให้ไว
- กีต้าร์ Music Man Majesty
Majesty เป็นกีต้าร์ลายเซ็นของจอห์นที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2014 ด้วยดีไซน์ใหม่หมดจดสะเทือนวงการ ฉีกแนวจากรุ่น JP ด้วยโครงสร้างแบบ neck through และระบบไฟฟ้าอัปเดทใหม่ ซึ่งการออกแบบทั้งหมดยังให้ความสำคัญสูงสุดกับความสบายในการเล่นตามหลักสรีรศาสตร์ มีความสมดุลของนำหนักในการสะพายเล่นอย่างเหลือเชื่อ ชื่อ Majesty นำมาจากชื่อวง Dream Theater ในอดีตนั่นเอง
Music Man Majesty มีหลายเวอร์ชันทั้งแบบ 6 และ 7 สาย และมีการอัปเดทสเปคอยู่เสมอ รุ่นที่มีขายอยู่ตอนนี้ที่น่าสนใจ ก็เช่น
- กีต้าร์ Music Man Majesty (เวอร์ชันแรก)
สเปคพื้นฐานของรุ่น Majesty ที่เด่นๆ คือ การเข้าคอแบบ neck through เชพบางๆ ซึ่งใช้ไม้มาฮอกกานีทำตั้งแต่หัวยาวตลอดคอลงไปถึงส่วนล่างสุดของบอดี้ แล้วใช้ไม้ basswood ประกบด้านข้างให้เป็นทรงบอดี้อีกที โครงสร้างแบบนี้ช่วยให้ Majesty สามารถปาดชายเว้าล่างได้ลึกสุดใจถึงเฟรทสุดท้าย แถมยังช่วยเรื่องซัสเทนเนื่องจากคอและกลางบอดี้เป็นไม้ชิ้นเดียวกัน ไม่มีการต่อไม้ตรง neck joint ตรงด้านหน้า (top) แปะไม้เมเปิลรูปโล่แกะลายคล้าย carbon fiber สวยงามดูสปอร์ตให้ฟีลแบบรถแข่ง
ฟิงเกอร์บอร์ดของ Majesty เป็นไม้ ebony เพื่อเสียงโน้ตที่คมชัด เรเดียส 17 นิ้ว สเกล 25.5 นิ้ว มีอินเลย์โลโก้ Majesty ที่เฟรทแรก และอินเลย์รูปโล่บนเฟรทที่เหลือ วัสดุเป็นอะคริลิคสะท้อนแสงคล้ายกระจกดูหล่อเหลามากมาย ยิ่งมากับเฟรทสเตนเลสเงาวับ 24 อัน ยิ่งดูแพงไปอีก ลูกบิดล็อคสาย Schaller M6-IND สีดำกับอะไหล่สีเดียวกันทั้งตัวทำให้กีต้าร์ยิ่งดูดีและดูดุในเวลาเดียวกัน
ขุมพลังของ Majesty เวอร์ชันแรกมาจากปิคอัพ DiMarzio Illuminator ที่ให้โทนเสียงค่อนข้างหนา หนักแน่น ดุดัน เนื้อเยอะกว่ารุ่น JP pickups selector 3 ทางมีระบบตัดคอยล์ที่แก๊กกลาง มีวงจร 20dB Gain Boost ที่ปุ่ม Volume แถมยังมี piezo pickups ติดตั้งมาให้เป็นมาตรฐานทุกตัว เจ้า Majesty จึงให้เสียงที่หลากหลายมากๆ เรียกว่านอกจากสวย เล่นง่าย แล้วยังใช้งานได้ครอบคลุมสุดๆ
คลิกเช็กสเปคและราคาของ Music Man Majesty ได้ที่นี่ครับ
- กีต้าร์ Music Man Majesty Monarchy
Majesty เวอร์ชัน Monarchy อัปเดทสเปคไม้ใหม่ด้วยไม้คอ Honduran mahogany น้ำหนักเบา ปีกบอดี้เป็นไม้ African mahogany ท็อปเมเปิลเปลี่ยนจากลายคาร์บอนมาเป็นลายเฟลมสวยงามแบบธรรมชาติ ปิคอัพรุ่นใหม่ DiMarzio Sonic Ecstasy ระบบไฟฟ้าทุกอย่างยังปรับได้กว้างเหมือนเวอร์ชันแรก อะไหล่มีให้เลือกระหว่างสีเงินและสีดำ มีสีให้เลือก 4 สี
ด้วยไม้ tonewood ที่เปลี่ยนจากมาฮอกกานีผสม basswood มาเป็นมาฮอกกานีล้วน Majesty Monarchy จึงให้เสียงที่หนา เด่นย่านเบสและย่านกลาง เหมาะสำหรับคนที่ชอบซาวด์หนักแน่นในบอดี้ล้วงง่ายเล่นสบายปั่นสนุกแบบ John Petrucci Majesty นั่นเอง
เช็กราคาและสเปคของ Music Man Majesty Monarchy ได้ที่นี่ครับ
ส่งท้าย
ที่ยกตัวอย่างมาวันนี้แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นนะ กีต้าร์ของจอห์นที่เจ๋งๆ ยังมีอีกหลายรุ่น แนะนำเข้าไปทดลองความร็อกและความพริ้วของ Petrucci signature ได้ที่ร้าน Bigtone จ้า